1. Notion

Notion software

Notion คือแพลตฟอร์มแบบ all-in-one สำหรับการจดบันทึก, สร้าง To-Do List, วางแผนโครงการ และจัดการงานต่าง ๆ ได้ในที่เดียว ผู้ใช้สามารถสร้างฐานข้อมูล, ปฏิทิน, Kanban board, หรือจะเขียนบันทึกสไตล์ Markdown ก็ได้ เหมาะกับทั้งคนเดียวและทีมเล็ก-ใหญ่

จุดเด่น - ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งให้เหมาะกับการทำงานทุกรูปแบบ

ข้อดี
✅ สร้าง workspace ได้อิสระ
✅ มีเทมเพลตช่วยเริ่มต้นใช้งานง่าย
✅ ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้รวดเร็ว

ข้อเสีย
❌ ต้องใช้เวลาปรับตัวหากไม่เคยใช้
❌ ยังไม่มีระบบเตือนครบถ้วนแบบแอป Task Manager โดยตรง

2. Todoist

Todoist software

Todoist คือแอปสำหรับจัดการงานแบบ To-Do List ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ผู้ใช้สามารถสร้างงาน, ตั้งเวลา, ใส่ป้ายกำกับ, ลำดับความสำคัญ และแชร์กับคนอื่นได้ เหมาะสำหรับใช้ติดตามเป้าหมายรายวัน รายสัปดาห์

จุดเด่น - อินเตอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานง่ายแม้สำหรับมือใหม่

ข้อดี
✅ ระบบจัดลำดับความสำคัญงาน
✅ มีระบบ Karma ช่วยกระตุ้นให้ใช้งานต่อเนื่อง
✅ มีการแจ้งเตือนและการทำงานแบบ recurring task

ข้อเสีย
❌ การทำงานร่วมกับทีมไม่ยืดหยุ่นเท่า Trello
❌ ฟีเจอร์บางอย่างต้องใช้แผน Premium

3. Trello

Trello software

Trello คือเครื่องมือจัดการงานแบบ Kanban Board ที่ให้คุณลากและวางการ์ดแต่ละงานไปตามขั้นตอน เช่น To Do > Doing > Done ซึ่งเหมาะทั้งสำหรับงานเดี่ยวและงานทีมเล็ก

จุดเด่น - การใช้บอร์ดและการ์ดที่เข้าใจง่าย พร้อมระบบ Automation (Butler)

ข้อดี
✅ ใช้งานง่าย
✅ มี Power-Ups เชื่อมต่อกับแอปอื่นได้
✅ เห็นภาพรวมของโครงการชัดเจน

ข้อเสีย
❌ ไม่เหมาะกับโปรเจกต์ซับซ้อนมาก
❌ ไม่มี Gantt Chart ในตัว ต้องต่อเสริม

4. Google Calendar

Google Calendar software

Google Calendar เป็นแอปปฏิทินของ Google ที่สามารถใช้จัดตารางนัดหมาย ประชุม หรือวางแผนกิจกรรมได้ โดยสามารถเชิญผู้อื่นให้เข้าร่วมนัดหมาย แชร์ปฏิทิน หรือกำหนดช่วงเวลาทำงานได้

จุดเด่น - ซิงค์กับ Gmail และบริการ Google อื่น ๆ

ข้อดี
✅ แชร์และดูปฏิทินร่วมกับผู้อื่นได้
✅ เตือนก่อนกิจกรรม
✅ ใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ผ่านบัญชี Google

ข้อเสีย
❌ ไม่เหมาะกับการจัดการงานหลายระดับหรือโครงการใหญ่
❌ ต้องใช้งานร่วมกับแอปอื่นเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น

5. Clockify

Clockify software

Clockify คือเครื่องมือสำหรับจับเวลา (Time Tracking) ที่เหมาะสำหรับฟรีแลนซ์ ทีมงาน หรือบริษัทที่ต้องการวัดประสิทธิภาพการทำงาน สามารถดูรายงานรายวัน รายสัปดาห์ หรือแยกตามโปรเจกต์ได้

จุดเด่น - บันทึกเวลาทำงานจริงได้แบบอัตโนมัติ พร้อมระบบรายงาน

ข้อดี
✅ ใช้งานฟรี 100% สำหรับฟีเจอร์หลัก
✅ มี Time Tracker & Dashboard
✅ เหมาะกับคนที่ทำงานแบบชั่วโมง

ข้อเสีย
❌ อินเทอร์เฟซไม่ทันสมัยเท่าแอปใหม่ ๆ
❌ อาจไม่เหมาะกับงานที่ไม่ต้องจับเวลาแบบตรงเป๊ะ